ไม่ใช่เรื่องแปลกใจว่าทำไมความรักของสาว 20 ปีกับวัย 30 จะแตกต่างกันก็คนเรามันประสบการณ์ไม่เท่ากันเจอโลกมามากน้อยแตกต่างกันคำว่าเวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนเรื่องนี้ขอบอกว่าจริงเลยแหละ
จากผลสำรวจชื่อว่า 60% ของคนวัย 20 ปีมีความเชื่อในเรื่องรักแรกพบ
หญิงสาววัยรุ่นที่อยู่ในวัยนี้มองความรักเป็นสิ่งสวยงามและสามารถทุ่มเททั้งตัวและใจทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก ถ้าลองได้รักใครแล้วไม่ว่าจะมีอุปสรรคอะไรมาขวางก็ไม่สนใจ ที่สำคัญยิ่งมีใครมาขวางก็จะยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นำซ้ำยังประชดประชันทำสิ่งที่ตรงกันข้ามอีกด้วย ทำนองยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุอย่างนี้แหละ เพราะว่ายังไม่เคยเจอความจริงของความรัก ยังมองความรักเป็นสิ่งสวยงามเพียงด้านเดียว ประมาณว่ายังเป็นสาวโลกสวยอยู่นั่นเอง
จากผลสำรวจเชื่อว่า 50% ของผู้หญิงวัย 30 ขึ้นไปขอเลือกเหตุผลมาก่อน
ผู้หญิงหลายคนในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป มักจะเจอประสบการณ์ความรักมากมายแตกต่างกันไปทั้งดีและร้าย ทำให้ความคิดเปลี่ยนแปลง เหตุผลต้องมาก่อนอารมณ์ ที่สำคัญคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อด้วยว่ารักแรกพบมีจริง เพราะนั่นเหมือนความรักที่ฉาบฉวย ความรักที่แท้จริงควรจะมาจากการเรียนรู้นิสัยใจคอซึ่งกันและกัน ได้ผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆร่วมกัน จนเกิดเป็นความเข้าใจกันและกันมาระดับนึง ก่อนที่ความรู้สึกจะเปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นความรัก
สรุปง่ายง่ายก็คือความแตกต่างของสาว 20 ปีกับ 30 ปี ที่มีต่อความรักนั้นก็คือ
เรื่องของประสบการณ์ล้วนๆเลย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่สิ่งที่แต่ละคนประสบพบเจอกันมาคนที่เคยเจอแต่เรื่องความรักที่ไม่ดีก็จะเป็นคนที่มีเกราะป้องกันตัวเองเยอะเป็นพิเศษคอยระวังตัวอยู่เสมอ มองความรักเป็นสีดำหรือสีเทา แต่ถ้าใครเคยเจอความรักทั้งดีและไม่ดีทั้งสองอย่างพร้อมกันก็จะยังมีศรัทธาในความรักอยู่บ้างแต่อาจไม่เต็มร้อยซะทีเดียว เหมือนสาวใสวัย 20 แต่ถ้าใครโชคดีไม่เคยเจอความรักแย่ๆเลย ก็จะมองความรักเป็นสิ่งสวยงาม เหมือนเด็กสาววัยรุ่น
ที่จริงแล้วความรักก็เปรียบเสมือนเหรียญที่มีทั้งสองด้าน ถ้าเรารู้จักปรับตัวให้เข้ากับแต่ละด้านให้ได้เพียงเท่านี้เราก็จะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานกับความรักให้มากมายนักแล้วล่ะ